เชียงใหม่ ๒๕๖๔ . ..

วันที่ 18-21 เดือนสิบเอ็ดเราได้มีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่อีกครั้ง แต่มาคราวนี้ไม่เหมือนทุก ๆ คราวที่ผ่านมาเพราะรอบนี้เรามีแฟนไปด้วยฮะ รอบนี้ผมไม่ได้อยู่แต่ในเมืองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แฟนเราเป็นคนจัดการแพลนทั้งหมด

โชคดีหน่อยที่เราไปตรงกับประเพณียี่เป็ง

วันแรกที่เราไปถึงหนามบินเชียงใหม่ เราก็ไปรับรถที่เราเช่าไว้เพื่อขับไปจังหวัดลำพูนเพื่อไปวัด ๆ นึงที่มีโคมสี ๆ แขวนไว้เยอะ ๆ

หลังจากนั้นเราก็ขับรถจากลำพูนตรงไปยังที่อำเภอแม่แตงประมาณร้อยกิโลเมตรได้มั้งฮะ

แฟนเราจองที่พักที่แม่แตงไว้ชื่อ ธรรมดาโฮมสเตย์

ธรรมดาโฮมสเตย์

มีห้องพักอยู่ประมาณ 4-5 ห้องได้มั้งนะถ้าจำไม่ผิด อากาศดีมากกกก ห้องทุกห้องจะมีอ่างอาบน้ำแต่ละห้องถ้าพักเต็ม ๆ น่าจะได้ประมาณ 4 คน ไม่แนะนำให้ไป 3 ถ้าไม่ได้ไปแบบว่าสองคนนั้นเป็นกิ๊กกันหรืออะไรนะไม่งั้นมึงเหมือนเป็นก้างขวางคอแน่

คอนเซ็ปที่ส่วนมากที่มาที่นี่กันก็จะเป็นการถ่ายรูปพร้อมกับเตาหมูกระทะแล้วก็เอาผ้ามาปูตรงระเบียงถ่ายรูปให้เห็นทะเลหมอกที่อยู่หน้าบ้าน แน่นอนที่พิมพ์มาเหล่านี้แฟนผมทำหมด

ตัวห้องพักจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนแล้วก็มีห้องใต้หลังคา เอาจริง ๆ ห้องใต้หลังคาเนื่ยสามารถนอนได้สองคนเลยนะยังได้รับอากาศเย็น ๆ จากธรรมชาติไปด้วย เราก็ลืมถ่ายรูปภายในห้องเก็บไว้ด้วยเสียดายถ้ามีโอกาสก็แนะนำอยากให้ไป แต่ถ้าจะให้เราไปอีกเราคงไม่ไปแล้ว 555

วันที่สองเราเช็คเอาท์

ออกจากธรรมดาโฮมสเตย์

วันนี้เรามีแพลนเข้าไปพักในตัวเมือง จะบอกว่าช่วงที่เราไปเนี่ยในตัวเมืองค่อนข้างเสี่ยงเอามาก ๆ เพราะตามข่าวบอกว่าในเมืองอะระบาดเอามาก ๆ โควิดอะ แต่ก็นะโนสน โนแคร์ เราเซฟตัวเราให้มากขึ้นก็แล้วกัน

หลังจากที่เราออกมาจากที่พักอะนะแฟนบอกว่า สวนสนแม่แตงอะต้องไปถ่ายรูปให้ได้นะไหน ๆ ก็มาแล้วตอนแรกนึกว่าต้องเสียเงินเข้าไปถ่ายรูปที่ไหนได้ไม่เสียเงินฮะ ที่นี่เรามีรูปจ้า กล้องที่เราติดไปเที่ยวในครั้งนี้จะเป็น Sony A6300 + 7Artisan 50MM F0.95 เป็นเลนส์มือหมุนบางรูปอาจจะวืด ๆ ไปหน่อยโปรดเห็นใจกันด้วยทำดีที่สุดล๊าวววววว (แต่ดีกว่านี้ก็ทำด้ายยยย)

เอาจริง ๆ แวะที่นี่ก็แวะได้ไม่นานหรอกปวดปัสสวะเลยรีบออกไปหาปั้มจากนั้นระหว่างกลับไปยังตัวเมืองเราไปแวะอีกที่นี่สวนดอกไม้แถว ๆ นั้นแหละแต่อันนี้เสียค่าเข้าไปถ่ายรูปคนละ 50 บาท แต่คูปองสามารถเอาไปแลกน้ำเปล่าขวดเล็กได้คนละขวด จำชื่อไม่ได้นะไม่ได้นะ เพราะตอนไปร้อนมากแฟนก็จะแวะ ๆ ถ้ารูปที่ออกมายีตาก็ไม่ต้องแปลกไป แดดอย่างเปรี้ยงงงงงง


โอเคตอนนี้มุ่งหน้าไปในเมืองแล้วจริง ๆ

วันนี้เรามาพักในตัวเมืองฮะ ที่พักชื่อว่า นอน ใช่ฮะไม่ได้พิมพ์ตกหล่นอะไรไป ที่พักนี้ตั้งอยู่นิมมาน ซ.13 ตรงข้ามกับร้านอาหารที่ต้องมาเช็คอินนั่นก็คือ ต๋องเต็มโต๊ะ แน่นอนฮะผมกับแฟนไม่ได้กินที่นี่

นอน ห้องที่ผมพักนั้นจะเป็นการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นจะเรียกแบบนั้นได้หรือป่าวผมก็ไม่รู้เอาเป็นว่าไปดูรูปแทนก็แล้วกัน

นั้นแหละฮะคืนนี้ที่ผมและแฟนจะนอนกันที่นี่

วันนี้แฟนมีแพลนไว้ว่าจะต้องไป ดอยคำ ไปไหว้หลวงพ่อทันใจ จากนั้นไปดอยสุเทพแล้วต่อด้วยอ่างแก้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผมมาสะดุดตรงที่ดอยสุเทพคือนักท่องเที่ยวน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับก่อนที่ไวรัสโควิด – 19 จะระบาด

เรียกได้ว่าอยากถ่ายภาพมุมไหน ก็เดินไปถ่ายได้เลยนักท่องเที่ยวแทบไม่มีให้เห็นซักเท่าไหร่นัก


แต่เมื่อเทียบกับอ่างแก้วแล้วอ่างแก้วคนเยอะกว่ามาก


จริง ๆ วันนี้ต้องกลับแล้ว

วันนี้ผมมีแพลนวิ่งขึ้นดอยสุเทพตอนเช้าก่อนกลับกรุงเทพ โอเคผมตื่นประมาณ 7 โมงเช้าได้จากนั้นก็รีบแต่งตัววิ่ง ๆ เดิน ๆ จากนิมมานซอยสามไปยังสวนสัตว์เชียงใหม่ จากนั้นก็เริ่มวิ่งขึ้นไปยังดอยสุเทพประมาณ 8 โมงกว่า ๆ แดดกำลังเริ่มออกเลยจ้า

เอาจริง ๆ วิ่งไปซักพักประมาณ 3-4 กิโลเมตรได้เริ่มงอแงแล้วฮะ ในหัวคิดว่า กูมาทำไรวะเนี่ย ทำไมไม่นอนอยู่ในห้อง

ถึงจุดพักแรกกิโลเมตรที่ 5-6 เนี่ยแหละผมจำไม่ได้จะมีศาลานั่งพักกับมีร้านขายของกินตอนนั้นผมคิดว่าเติมพลังเสร็จแล้วจะวิ่งกลับแล้ว แต่ไหน ๆ ก็มาละอีกแค่ครึ่งทางเอง สุดท้ายก็ไปถึงฮะ แต่ขาลงผมนั่งรถแดงลงมานะเพราะกลัวกลับไม่ทันตอนเช็คเอาท์ที่พักกับต้องไปสนามบินตอนบ่ายหนึ่ง

พอผมมาถึงห้องก็อาบน้ำแล้วคุยกับแฟนว่าอยู่ต่ออีกวันดีกว่าเดี๋ยวตั๋วเราออกเอง สุดท้ายก็กดตั๋วใหม่กับห้องพักและเช่ารถเพิ่มอีกวันนึง

วันนี้เราย้ายมานอนที่ ฮักนิมมาน (ดูรูปที่พักได้ที่เราว่านะอีกนานกว่า เชียงใหม่จะเหมือนเดิม) หลังจากเช็คอินเราก็ไปที่วัดอุโมง

วัดอุโมงถ้าอยากถ่ายรูปสวย ๆ แนะนำมาช่วงปลายฝนต้นหนาวเหล่าบรรดาต้นมอสจะเขียวขจีเป็นอย่างมาก ถ่ายรูปสวยแน่ ๆ